เที่ยวภูทับเบิกช่วงไหนดี เดินทางอย่างไร คำถามเหล่านี้มีคำตอบ

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 15 ส.ค. 2561 16:19:01 น. เข้าชม 491 ครั้ง แจ้งลบ

เที่ยวภูทับเบิกช่วงไหนดี เดินทางอย่างไร คำถามเหล่านี้มีคำตอบ ☰กดไลค์หรือแชร์ เรื่องนี้ให้เพื่อนรู้ >>>  

เที่ยวภูทับเบิกช่วงไหนดี เดินทางอย่างไร คำถามเหล่านี้มีคำตอบ

เที่ยวภูทับเบิกช่วงไหนดี เดินทางอย่างไร คำถามเหล่านี้มีคำตอบ

ภูทับเบิก
ภาพจาก Em7 / shutterstock.com

          เที่ยวภูทับเบิกช่วงไหนดี ไปทำอะไรที่ภูทับเบิก จะนอนที่ไหน มีลานกางเต็นท์หรือไม่ เดินทางอย่างไร ... มาดูทางนี้เลย

          ทุกเช้าหลังฝนตก บนยอดดอย ยอดภูมักจะถูกแต่งแต้มไปด้วยทะเลหมอกสีขาวปุกปุย ลอยคลอเคลียกับยอดเขา รอต้อนรับแสงอาทิตย์ยามเช้า พร้อมกับอากาศที่หนาวเย็น เป็นบรรยากาศที่โรแมนติกสุด ๆ และฤดูกาลการตามล่าหาทะเลหมอกก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ซึ่งวินาทีนี้ต้องยกความฮอตฮิตให้กับภูเขากะหล่ำปลี หรือภูทับเบิก ดินแดนในหุบเขาสุดมหัศจรรย์ ที่สามารถสรรสร้างทะเลหมอกขึ้นมาได้อย่างงดงาม ราวกับที่แห่งนี้คือสวรรค์ย่อม ๆ ของมนุษย์เลยทีเดียว จึงไม่แปลกที่ใคร ๆ ก็อยากไปเที่ยวภูทับเบิกสักครั้ง วันนี้กระปุกดอทคอมเลยรวมรวบคำถามยอดฮิตมาไขข้อข้องใจให้กับเพื่อน ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ในการเดินทางก่อนไปเที่ยวภูทับเบิกกันค่ะ เริ่มที่ ...  


ภูทับเบิก อยู่จังหวัดอะไร

          ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ห่างจากตัวเมืองเพชรบูรณ์ขึ้นไปประมาณ 40 กิโลเมตร สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร ถือได้ว่าเป็นจุดที่สูงที่สุดของจังหวัดเพชรบูรณ์ เส้นทางคดเคี้ยวที่ไต่ระดับความสูงของภูเขาขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงหุบเขาของแปลงกะหล่ำปลีที่มองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ชาวบ้านดั้งเดิมส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่าม้ง ประกอบอาชีพปลูกกะหล่ำปลีเป็นหลัก วิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าม้งยังคงมีให้เห็นได้ที่นี่

ภูทับเบิก

ไปดูทะเลหมอก-ทะเลดาวได้ช่วงไหน

          ดินแดนแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ด้วยมีร่องลมเย็นพัดผ่าน ยิ่งในช่วงหน้าหนาวจะมีอากาศหนาวเย็นมาก บางครั้งอุณหภูมิลดลงไปถึงติดลบ ยิ่งมีลมพัดยิ่งทำให้หนาวเหน็บไปจนถึงขั้วหัวใจเลยทีเดียว และยิ่งไปกว่านั้นเกือบทุกเช้าหลังฝนตก ปรากฏการณ์ทะเลหมอกสุดอลังการจะเกิดขึ้นในหุบเขาแห่งนี้ หมอกมากมายจะก่อตัวอยู่เหนือภูเขาและไร่กะหล่ำปลี เป็นเหมือนพรมปุยนุ่นที่ปูให้เดินไปหาพระอาทิตย์ที่กำลังโผล่พ้นขึ้นสู่ท้องฟ้า 

         ในยามค่ำคืนที่ฟ้าเปิดโล่ง ที่นี่จะกลายเป็นทะเลดาวทั้งบนท้องฟ้าและบนดิน มีดาวมากมายนับไม่ถ้วนส่องแสงระยิบระยับ ตอบรับกับแสงไฟรำไรของบ้านชาวบ้าน ทำให้มีดาวทั้งบนฟ้าและบนดิน ขอบอกเลยว่าบรรยากาศแบบนี้ฟินสุด ๆ

เที่ยวภูทับเบิกช่วงไหนดี

          ภูทับเบิกสามาถไปเยือนได้ตลอดทั้งปี เพราะแต่ละช่วง แต่ละฤดูกาลก็งดงามแตกต่างกันออกไป ซึ่งจุดที่สามารถชมทะเลหมอกและทะเลดาวได้สวยงามที่สุดจะอยู่บริเวณอาคารหอดูดาวและที่วัดอุณหภูมิ จุดชมวิวภูทับเบิก เป็นจุดที่สูงที่สุดในบริเวณนี้และสามารถมองเห็นภูทับเบิกได้แบบรอบด้าน และช่วงที่สามารถชมทะเลหมอกได้สวยที่สุดจะอยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาว คือระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 

ภูทับเบิก
ภาพจาก Em7 / shutterstock.com

          # ภูทับเบิกหน้าฝน

          หากอยากหลีกเลี่ยงบรรยากาศของผู้คนหนาแน่นและแออัดเต็มยอดภู การเดินทางไปเที่ยวภูทับเบิกในช่วงหน้าฝนก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย เพราะในหน้าฝนบรรยากาศบนภูทับเบิกจะเย็นสบาย เขียวขจีไปด้วยต้นไม้ ใบหญ้า แม้ว่ากะหล่ำปลีจะมีไม่เต็มดอย แต่ก็มีให้เห็นเยอะพอสมควร ราคาที่พักในช่วงนี้จะถูกกว่าราคาปกติถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ในบางวันที่ฝนหยุดตกก่อนรุ่งสาง ก็จะมีทะเลหมอกสุดอลังการให้เราได้เห็นด้วยเช่นกัน ในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปีต้องไม่พลาดประเพณีกินข้าวใหม่ม้ง ซึ่งเป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวไทยภูเขาเผ่าม้งที่อาศัยอยู่ที่ภูทับเบิก

          # ภูทับเบิกหน้าหนาว

          อากาศบนภูทับเบิกจะเริ่มหนาวตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน และจะหนาวมาก ๆ ในช่วงเดือนธันวาคม-เดือนมกราคม ช่วงนี้ชาวบ้านจะเก็บเกี่ยวกะหล่ำปลีเกือบหมดแล้ว แต่อากาศและบรรยากาศจะฟินสุด ๆ นักท่องเที่ยวยังสามารถพบเจอกับทะเลหมอกได้เกือบทุกวัน ท้องฟ้าทั้งกลางวันและกลางคืนจะปลอดโปร่ง ยามเช้าและยามเย็นพระอาทิตย์จะแดงและกลมโต ยามค่ำคืนจะมองเห็นดาวได้อย่างชัดเจน มีไร่สตรอว์เบอร์รีและพืชเมืองหนาวให้ได้เที่ยวชม ช่วงปีใหม่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับประเพณีงานปีใหม่ม้ง ซึ่งหาดูได้ยากในเมืองไทย ในช่วงปลายฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อน ต้นนางพญาเสือโคร่งจะออกดอกบานสะพรั่ง โดยจะมีให้เห็นตลอดเส้นทางบนภูทับเบิก

          # ภูทับเบิกหน้าร้อน

          แม้ว่าจะเป็นหน้าร้อน แต่ภูทับเบิกก็ยังมีอากาศหนาวเย็น และมีไอหมอกให้เห็นประปราย ในช่วงนี้อากาศจะสดชื่น ขับรถได้ปลอดภัยกว่าฤดูกาลอื่น ๆ ที่พักมีราคาต่ำกว่าปกติ สามารถสัมผัสถึงวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าม้งได้อย่างเต็มที่ เพราะมีนักท่องเที่ยวไม่หนาแน่น จึงสามารถเข้าเที่ยวชมวิถีชีวิตของชาวบ้านได้สะดวกกว่าช่วงอื่น ๆ ไร่กะหล่ำปลีก็ยังคงมีให้เห็น แต่ไม่เยอะเท่าช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน  


กะหล่ำปลี ภูทับเบิกมีช่วงไหน

ภูทับเบิก

          ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนภูทับเบิกมีอาชีพปลูกกะหล่ำปลีเป็นหลัก เนื้อที่การปลูกกะหล่ำปลีที่นี่กว้างขวางมองออกไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา กินพื้นที่ภูเขาหลายลูก ชาวเขาเผ่าม้งยังคงใส่ชุดประจำเผ่าออกมาทำไร่ทำสวน และยังคงเดินเท้าไปรอบ ๆ หมู่บ้าน ยังคงใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่าย ถ้าอยากเห็นไร่กะหล่ำปลีแบบเต็มหุบเขา ควรจะมาในช่วงเดือนกรกฎาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน อากาศที่ภูทับเบิกในช่วงนี้จะเหมาะสมต่อการเติบโตของกะหล่ำปลี และเมื่อไปถึงภูทับเบิกแล้วก็ไม่ควรพลาด มนูกะหล่ำปลีผัดน้ำปลา เนื้อกะหล่ำปลีจะสด กรอบ หอมหวาน เข้ากันดีกับความหอมเค็มของน้ำปลา อร่อยจนหยุดไม่อยู่แน่นอน

ภูทับเบิก มีอะไรน่าเที่ยว

          ภูทับเบิกไม่ได้มีเพียงหุบเขาไร่กะหล่ำปลีเท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีที่เที่ยวอื่น ๆ ให้ได้เที่ยวชมอีกมากมาย อาทิ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า, วัดป่าภูทับเบิก ภายในวัดมีพระมหาเจดีย์โพธิปักขิยธรรม (เจดีย์เพชร 37 ยอด) ซึ่งภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ, สถานีวิจัยเพชรบูรณ์ แปลงทดลองทับเบิก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมีการปลูกพืชเมืองหนาว ไม่ว่าจะเป็น สตรอว์เบอร์รี สาลี่ พลัม และท้อ เป็นต้น นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถที่จะเดินทางไปเที่ยวที่เขาค้อ ก่อนที่จะเดินทางมายังภูทับเบิกก็ได้เช่นกัน

          นอกจากนี้ในช่วงปลายฤดูหนาวจะเป็นช่วงเวลาที่ดอกนางพญาเสือโคร่งจะเบ่งบานสะพรั่ง นอกจากตามถนนบนภูทับเบิกแล้ว บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงที่ "ภูลมโล" ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ก็จะมีต้นนางพญาเสือโคร่งอยู่เต็มหุบเขา ส่งสีชมพูหวานไปทั่วภูลมโล เป็นบรรยากาศที่โรแมนติกสุด ๆ

ภูทับเบิก

 ที่พักภูทับเบิก ไปแล้วนอนที่ไหนดี

          ปัจจุบันบนภูทับเบิกมีที่พัก รีสอร์ท และลานกางเต็นท์มากมาย มีให้เลือกหลากหลายแบบ เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีบรรยากาศสวยงาม ผ่อนคลาย ที่สำคัญราคายังไม่แพงจนเกินไปอีกด้วย ชาวบ้านบางท่านยังเปิดบ้านของตัวเองเป็นโฮมสเตย์ นักท่องเที่ยวจึงได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวม้งแบบดั้งเดิมอีกด้วย สามารถคลิกดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ ... ที่พักภูทับเบิก

          สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดโดยการนอนเต็นท์ ที่ภูทับเบิกก็มีลานกางเต็นท์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอยู่ที่บริเวณอาคารหอดูดาวและที่วัดอุณหภูมิ จุดชมวิวภูทับเบิก ซึ่งเป็นการบริการของวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก ค่าบำรุงรักษาสถานที่หลังละ 50 บาท ไม่เสียค่าจอดรถ ถ้าไม่มีเต็นท์ส่วนตัวทางวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิกก็มีบริการให้เช่าเต็นท์ โดยจะได้รับเต็นท์ 1 หลัง พักได้ 4 ท่าน พร้อมหมอน ผ้าห่ม และเสื่อ ราคาหลังละ 700 บาท มีห้องน้ำหยอดเหรียญครั้งละ 5 บาท เปิดให้บริการอยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่กางเต็นท์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก โทร. 08 5733 9737

          นอกจากนี้รีสอร์ทต่าง ๆ ยังเปิดให้บริการลานกางเต็นท์อีกมากมาย สามารถสอบถามรายละเอียดที่รีสอร์ทบนภูทับเบิกได้โดยตรง

ภูทับเบิก

ภูทับเบิก การเดินทาง

          รถยนต์ส่วนตัวสามารถไปได้ 2 เส้นทาง คือ

          1. จากจังหวัดเพชรบูรณ์ 
ขับรถมาตามทางหลวงหมายเลข 21 ตรงไปอำเภอหล่มสักประมาณ 40 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางเลี่ยงเมืองหล่มสัก มุ่งหน้าสู่ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ตรงไปสักพัก จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 2372 ตามป้ายบอกทางไปอุทยานภูหินร่องกล้าและภูทับเบิก จากนั้นเลี้ยวซ้ายอีกครั้งเพื่อเข้าสู่ถนนหมายเลข 2331 ตลอดเส้นทางนี้จะคดเคี้ยว ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง และผู้ขับขี่ต้องมีความชำนาญในการขับรถมากพอสมควร เพราะมีบางช่วงเป็นโค้งหักศอกและสูงชัน เมื่อไปถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตรงนี้จะมีแยกทางขวามือ ให้เลี้ยวไปทางขวาเพื่อไปยังภูทับเบิกอีกประมาณ 6 กิโลเมตร

          2. จากอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ให้ขับรถมาที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ขับผ่านเข้ามาในอุทยานฯ แล้วขับตรงมาเรื่อย ๆ เส้นทางนี้มีความคดเคี้ยวเช่นกัน ควรใช้ความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ เมื่อขับผ่านที่ทำการอุทยานฯ ตรงไปเรื่อย ๆ จะไปบรรจบกับเส้นทางที่จะลงไปที่อำเภอหล่มเก่า และอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ จะมีถนนทางด้านซ้ายมือ บอกไปภูทับเบิก ให้เลี้ยวซ้ายตรงไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร

ไปเที่ยวภูทับเบิกแต่ไม่มีรถส่วนตัว

          การเดินทางไปภูทับเบิกยังไม่มีรถโดยสารประจำทางเข้าถึง นักท่องเที่ยวต้องนั่งรถโดยสารประจำทางมาลงที่บริเวณสี่แยกอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ แล้วเหมารถสองแถวขึ้นไปยังภูทับเบิก เส้นทางการท่องเที่ยวและการมาส่งขึ้นรถกลับกรุงเทพฯ สามารถคุยตกลงได้กับคนขับรถ รวมถึงราคาก็สามารถต่อรองได้เลย ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 บาท

          ปลายฝนต้นหนาวนี้ใครยังไม่รู้ว่าจะไปดูทะเลหมอกที่ไหนดี ก็ลองไปทำความรู้จักกับภูทับเบิกกันดูนะคะ เส้นทางอาจจะคดเคี้ยวสักหน่อย แต่รับรองได้เลยว่าเส้นทางนี้สวยงามสมกับความพยายามแน่ ๆ คอนเฟิร์มค่ะ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

facebook